ฮลเลอร์พยายามให้องค์กร CIA ดำเนินการตามจับผู้ร้าย แต่กลับถูกกดดันด้วยความลับภายในและความไม่เต็มใจของเจ้านาย—มีการใช้โดรนสไตล์ “โจมตี” (drone strikes) ที่อำพรางว่าเป็นการก่อวินาศกรรมปลอม (suicide bombings) ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถได้รับความร่วมมือ
เพราะความสิ้นหวังและต้องการความยุติธรรม เฮลเลอร์ตัดสินใจใช้วิธี “แบล็กเมล์” (blackmail) เจ้านายของเขาใน CIA ให้มอบการฝึกฝนทางภาคสนามและทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อให้เขาสามารถไล่ล่าผู้ต้องสงสัยทั้งสี่คนที่เกี่ยวข้องกับการตายของซาราห์ได้เอง
ระหว่างทาง เฮลเลอร์ได้การช่วยเหลือจากแหล่งข่าวนิรนามชื่อ “Inquiline” (ในภายหลังเปิดเผยว่าเป็น Davies) และได้รับการฝึกจาก Robert Henderson ผู้บัญชาการที่ “เดอะฟาร์ม” (The Farm) เพื่อเปลี่ยนจากผู้ถอดรหัสธรรมดาให้กลายเป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติการภาคสนามได้ แม้ว่าเขาจะ “ไม่พร้อม” สำหรับการฆ่าโดยตรง
เฮลเลอร์ตามล่าคนร้ายทีละคน — มีการตามหาในหลายประเทศ เช่น ปารีส, มาร์แซย์, มาดริด, โรมาเนีย — ใช้เทคนิคที่ไม่ธรรมดา ทั้งการปลอมตัว ดักจับ ชิงไหวชิงพริบ และกับกับเจ้านายที่คอยติดตามเขา
ในที่สุด เฮลเลอร์ตามไปจนถึง “ฮอร์สท์ ชิลเลอร์” (Horst Schiller) — ผู้ปีนั่งอยู่เบื้องหลังเรื่องร้ายทั้งหมด — บนเรือลำหนึ่งในทะเลบอลติก ฮาร์ทเชลเลอร์ประสบกับจุดเปลี่ยนสำคัญ: เขามีโอกาสฆ่า “ชิลเลอร์” แต่เลือกใช้วิธีอื่น — ฮาร์ทได้แฮ็กเรือเพื่อให้ชิลเลอร์ถูกจับโดยตำรวจนานาชาติแทน
หลังสิ้นสุดภารกิจ เฮลเลอร์กลับมาซ่อมเครื่องบิน Cessna ที่เขาเคยเริ่มไว้เป็นของขวัญให้ซาราห์ แล้วบินไป เหมือนเพื่อระบายความเจ็บปวดและตัดขาดบางอย่างกับอดีต







